Last updated: 8 ก.ย. 2565 | 5195 จำนวนผู้เข้าชม |
ตั้งแต่ในช่วงสถานการณ์ Covid-19 กำลังระบาดที่ผ่านมา หลายคนต่างหาธุรกิจที่จะลงทุน เพื่อสร้างรายได้ให้กับตัวเองมากขึ้น การทำ “ธุรกิจปิ้งย่าง” ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี เนื่องจากต้นทุนในการลงทุนน้อย อีกทั้งยังเป็นสินค้าที่ขายดี ขายง่าย ลูกค้าให้ความสนใจ จึงมีคนสนใจที่จะลงทุนเปิดขายอยู่เสมอ วันนี้เราจะมารวบรวมวิธีการจะทำให้ “ธุรกิจปิ้งย่าง” ของเราปัง ลูกค้าเยอะเข้ารัวๆ
1. ทำเลที่ตั้งในการขายที่ดี การมีทำเลที่ดีหลายคนอาจจะมองว่าไม่สำคัญแต่จริงๆแล้วมันสำคัญเพราะว่าการที่เรามีทำเลที่ตั้งที่ดีมันก็เป็นการเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าได้เข้าใช้บริการร้านของเราอีกทั้งเป็นโอกาสที่เราจะสร้าวความประทับใจให้แก่ลูกค้าอีกด้วย ทำเลที่ดีคือควรที่จะอยู่ใกล้ถนนเพราะช่วยให้ลูกค้าเจอร้านของเราได้ง่าย รถสาธารณะต้องมีผ่านเพื่อให้สะดวกแก่การเดินทางมาของลูกค้า และที่สำคัญคือควรมีพื้นที่ให้จอดรถได้อย่างสะดวก และสุดท้ายคือร้านต้องอยู่ใกล้กับกลุ่มลูกค้าที่เราตั้งไว้
2. สร้างเอกลักษณ์ให้กับธุรกิจของเรา ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญเพราะว่าการที่เรามีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนก็จะช่วยให้เพิ่มภาพจำของร้านของเราให้กับลูกค้า นอกจากนี้คือเราต้องมีจุดยืนที่ชัดเจนเพื่อไว้สร้างความแตกต่างของร้านของเรากับร้านอื่นได้ ต้องไม่ลืมสิ่งที่เราอยากจะมอบให้กับลูกค้ามากที่สุดเพื่อให้เขาได้เห็นความมุ่งมั่นของเราและยังเป็นการสร้างความคาดหวังให้ลูกค้าต้องการที่จะได้รับจากร้านของเรา และต้องพยายาม story ให้กับร้านของเรา คือทำให้ลูกค้ารับรู้ถึง story ความเป็นมาของร้านเรา เพื่อให้เขาเชื่อในร้านของเรา นี้ก็จะช่วยให้ธุรกิจปิ้งย่างของเราปังอย่างแน่นอน
3. สำคัญมากๆเลยคือรสชาติอาหารที่ต้องอร่อย คุณภาพวัตถุดิบต้องดี สำคัญเพราะถ้ารสชาติของเราอร่อย คุณภาพของวัตถุดิบได้มาตรฐาน ก็เป็นสิ่งที่จะช่วยมัดใจให้ลูกค้ามาใช้บริการร้านของร้านเราเรื่อย ๆ และยังจะทำให้เขานึกถึงร้านของเราด้วยถ้าร้านของเรามีมาตรฐานที่เหมือนกันทุกครั้ง รสชาติของวัตถุดิบหลักของร้านปิ้งย่างที่ต้องอร่อยอย่างแรกเลยก็คือเนื้อสัตว์ และเนื้อสัตว์ที่หมักควรที่จะกัดไปคำแรกก็คือต้องได้รสชาติแล้วก็มีความนุ่ม อย่างที่สองคือน้ำจิ้มต้องรสชาติอร่อยและมีให้เลือกหลากหลายเพราะว่าแต่ละคนชอบไม่เหมือนกันถ้าเรามีให้เลือกเยอะก็น่าจะเป็นอีกอย่างที่ดึงดูดลูกค้าให้สนใจได้ ดังนั้นเราจึงต้องเลือกน้ำจิ้มที่ดีๆและหลากหลายเพื่อมัดใจลูกค้า ซึ่งน้ำจิ้มของเพียวฟู้ดส์ก็มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นน้ำจิ้มหมูกระทะ ที่ค่อนข้างหอมกลิ่นงา รสชาติกลมกล่อม และไม่เผ็ดมาก เหมาะสำหรับทุกวัย หรือจะเป็นน้ำจิ้มหมูเกาหลี ที่ยังมีความหอมของกลิ่นงา และจะรสชาติก็ออกแนวหวานหน่อยๆ เด็กๆทานได้ หรือถ้าอยากมาสไตล์ไทยๆก็มีน้ำจิ้มแจ่วอีสาน ตัวนี้จะออกหวานเค็ม กลมกล่อม แบบอีสานแท้ๆพร้อมทั้งมีพริกป่นและข้าวคั่ว แซ่บๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มีเป็นน้ำจิ้มปิ้งย่างบาบีคิว ยากินิกุ ตัวนี้จะหอมกลิ่นควัน และส่วนผสมที่ลงตัวของซอส อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมจากเครื่องเทศ หรือน้ำจิ้มซีฟู้ดส์ ตัวนี้บอกเลยว่าเริ่ดมากมีความเปรี้ยวหวานกำลังดี กลมกล่อมสุดๆ
1.การทำการตลาดที่ดี เข้าถึงลูกค้าได้เยอะ ตรงตัวเลยข้อนี้คือถ้าเราทำการตลาดดี มีการวงแผนการตลาด ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าเราจะต้องอยู่จุดไหนของตลาด ศึกษาคู่แข่งว่าเขาทำอะไรบ้าง และที่สำคัญต้องดูว่ากลุ่มลูกค้าเราคือใครและจะเลือกใช้กลยุทธ์อะไรที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เลือกไว้ได้ ซึ่งที่กล่าวมานั้นสุดท้ายแล้วถ้าทำเราสำเร็จลูกค้าก็จะเข้าถึงเรามาก และก็ช่วยให้ร้านเราก็จะได้มีลูกค้ามากไปด้วย และถ้าเราทำการตลาดดีวางแผนไว้ดีเข้าถึงลูกค้าได้ มันก็จะช่วยให้เราอยู่ในความสนใจของลูกค้าอยู่เสมอ ซึ่งการทำการตลาดก็ไม่ยากเลย เช่น การจัดตั้ง Facebook Page เพื่อให้ลูกค้าได้รู้จักเราเพิ่มมากขึ้น จดจำเราได้เพิ่มมากขึ้น หรือ การสร้าง Line chat group เพื่อที่จะได้มีการเข้าถึงลูกค้า ให้ลูกค้าได้รับรู้ว่าเราใส่ใจลูกค้ามากแค่ไหน ทำให้เขารู้ว่าเขาสำคัญสำหรับเราแค่ไหน นี่ก็เป็นสิ่งที่จะมัดใจลูกค้าได้
แค่ 4 ข้อนี้ ถ้าทำได้เชื่อได้เลยว่าร้านเราจะต้องปัง มีลูกค้าหันมาสนใจและใช้บริการร้านปิ้งย่างของเรามากขึ้นเรื่อยๆอย่างแน่นอน
เพื่อนๆคนไหนเปิดธุรกิจปิ้งย่างกันอยู่บ้าง และแน่นอนเลยว่าการที่จะทำให้ร้านของเรามัดใจลูกค้าหรือทำให้ลูกค้าติดใจเนี่ยไม่ง่ายเลย ไหนต้องรับมือกับปัญหาที่อาจจะเข้ามาอยู่ตลอด เราจึงมองเห็นว่าปัญหาเนี่ยแหละเป็นสิ่งที่ลูกค้าใช้ตัดสินเราเพราะบางครั้งปัญหาแค่เล็กน้อยอาจจะทำให้ลูกค้าไม่มาซ้ำอีกเลยก็ได้ วันนี้เราจึงได้ลองรวบรวมปัญหายอดฮิต ที่เกิดขึ้นจากการทำธุรกิจอาหารมาไว้ให้ทุกคนแล้ว เอาไว้เป็นแนวทางให้เพื่อนๆนำไปแก้ไขกับร้านปิ้งย่างของตัวเองให้ขายดีมากๆขึ้นไปอีก
1. การควบคุมวัตถุดิบและรสชาติไม่คงที่ แน่นอนว่าการจะทำธุรกิจปิ้งย่างนั้น หัวใจหลักอยู่ที่การหมักเนื้อสัตว์ต่างๆ หากถ้าเราไม่มีการควบคุมคุณภาพทั้งขนาด ปริมาณต่อถาดที่ใส่หรือรสชาติให้คงที่แล้วนั้น จะต้องเกิดปัญหาอย่างแน่นอนเช่น วันนี้เนื้ออาจจะรสชาติเค็ม แต่อีกวันนึงเนื้อไม่มีรสชาติเพราะชิ้นเนื้อใหญ่เกินไป หรือบางวันได้เนื้อที่ชิ้นเล็กเหมือนจะปลิวไปกับสายลม สิ่งเหล่านี้เนี่ยแหละที่จะส่งผลให้ลูกค้าไม่กลับมาซื้อซ้ำและจะทำให้เราเสียลูกค้าไปได้ ดังนั้นเราจึงต้องมีสูตรกลางในการทำอาหาร และควรที่จะใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพเพื่อที่จะรักษาฐานลูกค้าไว้นั่นเอง
2. การดูแลหน้าร้านดี ตกแต่งร้านให้สวยงาม แต่กับไม่มีคนมองเห็น เพราะสิ่งสำคัญมากๆอีกอย่างหนึ่งในการทำธุรกิจ คือการทำการตลาด และเรื่องของทำเลที่ตั้งของธุรกิจปิ้งย่าง เนื่องด้วยด้วยยุคสมัยนี้การทำการตลาดผ่านแค่หน้าเว็ปมันยังไม่เพียงพอ ต้องมีการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ทั้งสองทาง ดังนั้นทำเลที่ตั้งจึงมีความสำคัญต่อการที่จะทำธุรกิจปิ้งย่างเป็นอย่างมาก ซึ่งทำเลที่ดีก็ควรจะเปิดใกล้กับแหล่งชุมชน สถานศึกษา หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
3. การควบคุมรสชาติให้เป็นมาตฐาน เช่น ไม่ว่าจะเป็นซอสที่จะใช้หมักรวมไปถึงการเลือกน้ำจิ้มเด็ดประจำร้าน ซึ่งการที่เราจะเลือกสินค้าไหนมาใช้ที่ร้านเราก็ต้องมั่นใจว่ารสชาตินั่นอร่อยจริงๆ ซึ่งเพียวฟู้ดส์สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ทั้งในส่วนของน้ำจิ้มและซอสหมักเพราะเพียวฟู้ดส์เขาใส่ใจเรื่องของรสชาติที่ต้องอร่อยถูกปากและตอนนี้เขาเริ่มมีให้เลือกหลายสูตรด้วย ถ้าเป็นในตัวซอสหมักนุ่มก็มีทั้งซอสหมักนุ่มสูตรหมูกระทะ สูตรพริกเกาหลี สูตรย่างเกาหลี สูตรพริกแม็กซิกัน สูตรเทอริยากิ สูตรพริกไทยดำ ถ้าในส่วนของน้ำจิ้มก็มีทั้งน้ำจิ้มหมูกระทะ น้ำจิ้มหมูเกาหลี น้ำจิ้มแจ่ว น้ำจิ้มซีฟู้ดส์ น้ำจิ้มปิ้งย่างบาบีคิว ยากินิกุ ก็จะเห็นได้ว่ามีให้เลือกหลากหลายสุดๆ
ถ้าพูดถึงแม่บ้านยุคใหม่แล้ว ก็อาจจะชอบทำอาหารอะไรที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว เนื่องจากไม่มีเวลามากนัก วันนี้เราจึงอยากเสนอ 2 ไอเดียเมนู ที่ช่วยให้การทานปิ้งย่างสไตล์เกาหลีเป็นเรื่องง่ายๆ สามารถทำเองที่บ้านได้
วัตถุดิบ
1. เนื้อหมูสามชั้นหรือเนื้อวัวสไลด์
2. ผักเคียงปิ้งย่าง เช่น ผักกาดหอม กระเทียม หัวหอม ฟักทอง พริกหวาน เห็ดออริจิ พริกเกาหลี เป็นต้น
3. สาหร่ายแผ่น
4. กิมจิ
5. ซอสราดแล้วย่าง ตราเพียวฟู้ดส์
1.นำเนื้อหมูมาหนักกับซอสราดแล้วย่างทิ้ง 5-10 นาที หรือจะนำซอสเทใส่เนื้อสัตว์แล้วมาย่างเลยก็ได้ เพราะด้วยความพิเศษของซอสราดแล้วย่างนั้น เป็นซอสที่มีความเข้มข้นสูง เข้าไปแซงซึมในเนื้อได้ดี ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาหมัก เหมาะกับแม่บ้านยุคใหม่ สะดวกและง่าย
2.นำเนื้อหมูที่หนักซอสราดแล้วย่าง ลงมาย่างในเตาไฟฟ้าได้เลย จากนั้นนำกระเทียม ฟักทอง หัวหอม เห็ดออริจิ ลงมาย่างบนเตาได้เลย รอจนเนื้อหมูและคียงเคียงสุก เอาขึ้นไปจัดจานพร้อมรับประทานคู่กับผักกาดหอมได้เลย
ในเมื่อเรามีวิธีการทำเนื้อย่างซอสกันไปแล้วจะขาดเครื่องเคียงสำคัญอย่างกิมจิไปได้อย่างไง วันนี้เราจึงรวบรวมวิธีการทำกิมจิง่ายๆมาฝากทุกคนด้วยค่ะ
1. พริก
2. กระเทียม
3. ชิง
4. น้ำตาล
5. พริกป่นเกาหลี
6. น้ำปลา
7. ซอสโกชูจัง เพียวฟู้ดส์
8. ผักกาด
9. น้ำส้มสายชู
10. เกลือ
11. แครอท
1. นำพริก กระเทียมและขิง ปั่นให้เข้ากัน
2. จากนั้นนำซอสโกชูจัง เพียวฟู้ดส์ 5 ช้อน น้ำตาล 3 ช้อน พริกป่นเกาหลี 3 ช้อน และน้ำปลา 1 ช้อน ใส่ลงไป คนให้เข้ากัน
3. นำผักกาด แครอท ไปแช่น้ำ ใส่น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย และก็เกลือ 2 ช้อน ทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง
4. พอผักได้ที่แล้วก็นำมาทาซอสที่เตรียมไว้
5. เอาเข้าตู้เย็นแช่ไว้ 15 ชั่วโมง แค่นี้ก็ได้กิมจิอร่อยๆแล้วค่า
สงสัยมั้ยคะที่มีคนรีวิวน้ำจิ้มเด็ด แต่แอดว่าน้ำจิ้มเด็ดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และที่สำคัญเด็ดไม่เด็ดอยู่ที่ว่ารสชาติถูกปากเราด้วยรึเปล่ามากกว่า ถ้าทุกคนคิดเหมือนกันก็มาค่ะ แอดจะรวบรวมเคล็ดลับการเลือกน้ำจิ้มที่เหมาะกับตัวเราไว้ให้ทุกคนเอง
1. ระดับความเผ็ด ที่ให้ดูจากระดับความเผ็ดก่อนเลยเพราะว่า ระดับความเผ็ดก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าน้ำจิ้มตัวนี้เหมาะกับเรารึเปล่า
2. เลือกจากสไตล์ของปิ้งย่างที่เราจะกิน เนื่องจากในปัจจุบันเริ่มมีน้ำจิ้มออกมาหลากหลายตัวมาก ละแต่ละตัวก็เหมาะกับแค่ปิ้งย่างบางประเภทเท่านั้นด้วย การเลือกจากประเภทของปิ้งย่างจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราจะใช้ดูด้วย เพราะถ้าเราเลือกอันที่เข้ากันก็ช่วยให้เราทานปิ้งย่างได้อร่อยขึ้นนั่นเอง
วันนี้จะชวนทุกคนมารู้จักน้ำจิ้มปิ้งย่างแต่ละประเภทกันดีกว่า ว่าแต่ละปิ้งย่างของประเทศเนี่ยเขาใช้น้ำจิ้มแบบไหน เราจะเริ่มด้วย
เกาหลี
ปิ้งย่างเกาหลีส่วนใหญ่มักจะทานคู่กับซัมจัง ซัมจังนั่นทำมาจากโคชูจัง เต้าเจี้ยวเกาหลี งาขาว น้ำมันงา กระเทียมสับ หัวหอม มิริน น้ำผึ้ง/น้ำเชื่อมข้าว และพริกไทยดำ มาผสมกันให้เข้ากัน ซึ่งที่เรียกว่าซัมจังก็มาจากความหมายที่แปลว่าห่อ ถ้าสรุปง่ายๆก็คือเป็นน้ำจิ้มที่เหมะกับอาหารเกาหลีที่นำไปห่อตอนกิน ก็คืออาหารจำพวกปิ้งย่างเกาหลี เนื้อย่างนั่นเอง และเดี๋ยวนี้ปัจจุบันก็มีน้ำจิ้มเกาหลีแบบสำเร็จออกมาหลากหลายมาก แต่วันนี้ขอแอบรีวิวเป็นน้ำจิ้มหมูเกาหลีของเพียวฟู้ดส์ ซึ่งเด็ดมากขอบอก น้ำจิ้มตัวนี้จะรสชาติออกหวานนิดๆ หอมกลิ่นงา บอกเลยว่าถ้าได้ซื้อไปลองรับรองว่าไม่ผิดหวัง
ไทย
ปิ้งย่างของไทยหรือหมูกระทะนั่นบอกเลยว่ามีน้ำจิ้มหลากหลายสไตล์มากไม่ว่าจะเป็นน้ำจิ้มหมูกระทะแบบดั้งเดิมที่มีส่วนผสมของเต้าหู้ยี้ ซอสพริก น้ำส้มสายชู ซอสมะเขือเทศ ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม น้ำกระเทียมดอง น้ำตาล พริก กระเทียม งาขาว น้ำมันงา ผักชีและผักชีฝรั่ง หรือจะเป็นแนวๆซีฟู้ดส์เปรี้ยวหวาน แซ่บๆ ที่ใช้มีส่วนผสมจากน้ำตาลปี๊บ เกลือ น้ำ น้ำมะนาว พริก กระเทียม และผักชี บางคนก็มักจะกินกับน้ำจิ้มน้ำจิ้มแจ่วที่หอมกลิ่นข้าวคั่ว รสชาติก็เผ็ดเค็ม กำลังดี ที่ใช้ส่วนผสมของพริกปั่น ข้าวคั่ว น้ำมะนาว น้ำมะขามเปียก น้ำปลา งาขาวและผักชีฝรั่ง หรือจะทานคู่กับน้ำจิ้มสุกี้ก็แซ่บไม่ไหว ซึ่งคนก็นิยมทานคู่กับน้ำจิ้มสุกี้เยอะเหมือนกันเพราะมีส่วนผสมของซอสพริก กระเทียมดอง น้ำตาล เต้าหู้ยี้ น้ำ เกลือป่น น้ำส้มสายชู พริกขี้หนู กระเทียม งาขาว น้ำมันงาและผักชี และเช่นกันว่าในปัจจุบันก็มีน้ำจิ้มหมูกระทะแบบสำเร็จที่ปรุงมาเรียบร้อยแล้วค่อนข้างเยอะ แต่ก็ขอแนะนำให้ทุกคนได้ไปลองน้ำจิ้มหมูกระทะ เพียวฟู้ดส์ ตัวนี้รสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นงา ไม่เผ็ดมาก เด็กๆก็ทานได้ ถ้าใครอยากทานเผ็ดๆก็สามารถเติมพริกเพิ่มได้อีกตั้งหาก คุ้มมากปังไม่ไหว
ญี่ปุ่น
ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นมักจะทานคู่กับน้ำจิ้ม Yakiniku เท่านั้นเพราะ น้ำจิ้ม Yakiniku เป็นน้ำจิ้มที่ทำขึ้นมาเพื่อใช้ทานคู่กับปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นโดยเฉพาะ โดยด้วยรสชาติที่หวานและเค็ม เพราะด้วยส่วนผสมที่ทำมาจากซอสถั่วเหลืองเป็นหลัก แต่ก็มีน้ำตาล มิริน กระเทียม งาคั่ว หัวหอม และแอปเปิ้ล ผสมอยู่ด้วยเลยทำให้ได้รสชาติหวานเค็มกำลังดีอีกทั้งยังมีกลิ่นหอมของงาคั่ว และด้วยความที่ซอสจะค่อนข้างเข้มข้นมากจึงทำให้ทานคู่กับปิ้งย่างได้อย่างลงตัว
- เกาหลี
ปิ้งย่างเกาหลีหรือพลูโกกิ ที่แปลว่า เนื้อย่างบาร์บีคิว มาจากการรวมคำของคำว่า พลู ที่แปลว่า ไฟ และ โกกิ ที่แปลว่า เนื้อสัตว์ เป็นอาหารพื้นบ้านของคนเกาหลี เวลาทานก็แค่นำเนื้อสัตว์แล้วไปหมักด้วยซอสเกาหลี แล้วก็นำไปย่าง ซี่งมักจะทานคู่กับข้าว กิมจิ ผักกาดหอม พริกสด กระเทียมและซัมจัง จุดเด่นที่สำคัญของปิ้งย่างเกาหลีก็คือการที่อาศัยเน้นรสชาติที่มาจากการหมักมากกว่า การหมักเนื้อสัตว์ให้เข้าเนื้อ มีรสชาติที่อร่อย
- ไทย
ในประเทศไทย การปิ้งย่างเนื้อสัตว์หรือที่รู้จักในคำว่า หมูกระทะหรือหมูย่างเกาหลี มีต้นกำเนิดที่ไม่แน่นอน บ้างก็อกว่าเกิดจากประเทศเกาหลี บ้างก็เกิดจากประเทศญี่ปุ่น หมูกระทะถือว่าเป็นเมนูยอดฮิตที่หลายๆคนต่างถูกอกถูกใจ เนื่องจากมีรสชาติที่อร่อย ราคาถูก โดยแต่ละร้านจะมีสูตรเด็ดอยู่ที่รสชาติของการหมักเนื้อและน้ำจิ้มที่แตกต่างกันออกไป เอกลักษณ์ของการกินหมูกระทะนั้น มีการทำผลสำรวจออกมาว่า การกินหมูกระทะที่ใช้กระทะเตาถ่านนั้น จะมีรสชาติอร่อยและมีกลิ่นย่างในเนื้อสัตว์มากกว่าการกินโดยใช้เตาไฟฟ้าหรือเตาแก๊ส เคล็ดลับการเพิ่มความอร่อยให้กับหมูย่างเกาหลีหรือหมูกระทะ ควรเลือกซื้อซอสสำหรับการหมักให้ดี และใช้เวลาหมักอย่างน้อย1-2 ชม หรือ 1 คืน แต่ถ้าสำหรับเพื่อนหรือแม่บ้านรุ่นใหม่คนไหนที่ไม่ค่อยมีเวลา ชอบอะไรที่ง่ายๆ ประหยัดเวลา ขอแนะนำเป็นผลิตภัณฑ์ซอสหมักหมูกระทะของตราเพียวฟู้ดส์ เขาทำมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหานี้โดยเฉพาะ ง่ายๆแค่ราดไปบนเนื้อสัตว์ ทิ้งไว้ 20 นาที ก็เนื้อก็อร่อยเหมือนหมักข้ามคืน รสชาติเด็ดเหมือนนไปนั่งทานที่ร้านดังเลย
- ญี่ปุ่น
ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น หรือที่ทุกคนรู้จักในคำว่า Yakiniku (ยากินิกุ) แปลความหมายว่า เนื้อย่าง การปิ้งย่างแบบญี่ปุ่นจะนิยมใช้เตาถ่าน ต่างจากไทยและเกาหลีที่นิยมใช้เตาเหล็ก ซึ่งการใช้เป็นเตาถ่านเนี่ยจะช่วยทำให้ได้กลิ่นหอมของถ่านไม้ ในส่วนของวัตถุดิบที่นำมาย่าง ก็มีทั้งเนื้อสัตว์และผัก ซึ่งมักจะกินคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
น้ำจิ้มถือเป็นสิ่งสำคัญของการทานอาหารปิ้งย่าง ซึ่งน้ำจิ้มแต่ละร้านจะมีจุดเด่นเฉพาะที่ไม่เหมือนกัน โดยผลิตภัณฑ์ของเพียวฟู้ดส์นั่น มีน้ำจิ้มหลากหลายสไตล์ แต่ละตัวก็มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร 5 อันดับน้ำจิ้มที่ขายดีที่สุด มีแต่คนรักคนหลง
1.น้ำจิ้มหมูกระทะ ตัวนี้รสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นงา ไม่เผ็ดมาก
2.น้ำจิ้มหมูเกาหลี ตัวนี้จะรสชาติออกหวานนิดๆ หอมกลิ่นงา
3.น้ำจิ้มแจ่วอีสาน ตัวนี้จะออกหวานเค็ม กลมกล่อม แบบอีสานแท้ๆพร้อมทั้งมีพริกป่นและข้าวคั่ว
4.น้ำจิ้มปิ้งย่างบาบีคิว ยากินิกุ ตัวนี้จะหอมกลิ่นควัน และส่วนผสมที่ลงตัวของซอส อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมจากเครื่องเทศ
5.น้ำจิ้มซีฟู้ดส์ ตัวนี้บอกเลยว่าเริ่ดมากมีความเปรี้ยวหวานกำลังดี กลมกล่อมสุดๆ
ในส่วนของการรีวิวซอสหมักเนื้อสัตว์นั้น เราจะพลาดรีวิวซอสหมักของเพียวฟู้ดส์ไปได้อย่างไร เพราซอสหมักของเพียวฟู้ดส์นั้น แค่หมักไว้ 20 นาที โดยที่เราไม่ต้องปรุงเพิ่ม ก็ได้เนื้อสัตว์นุ่มๆที่สามารถนำใช้ประกอบอาหารได้แล้วว ง่ายและสะดวกมากเหมาะสำหรับคนยุคใหม่ที่ไม่ค่อยมีเวลา
อีกทั้งซอสหมักนุ่มของเพียวฟู้ดส์ก็มีหลากหลายสูตรให้เราได้เลือกไปทดลองชิมเลย และในแต่ละตัวจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไปอีก
ซอสมักนุ่ม สูตรเทอริยากิ ตัวนี้จะออกหวานๆ หอมๆกลิ่นเทอริยากิเหมือนทำจากที่ญี่ปุ่นแท้ๆ และไม่เผ็ดเหมาะสำหรับเด็กๆ และคนที่ไม่ชอบทานเผ็ดอีกด้วย
ซอสหมักนุ่ม สูตรพริกไทยดำ ตัวนี้จะมีเผ็ดนิดๆ แต่หอมกลิ่นพริกไทยดำมาก แอบกระซิบว่าตัวนี้ขายดีมาก
ซอสหมักนุ่ม สูตรย่างเกาหลี ตัวนี้จะออกบาร์บีคิวหน่อยๆ ไม่เผ็ดมาก ถูกใจสายเกาหลีสุดๆ
ซอสหมักนุ่ม สูตรพริกเกาหลี ตัวนี้จะมีความเผ็ดร้อนกว่าสูตรย่างเกาหลีนิดนึง แต่คือได้ถึงกลิ่นและรสชาติของพริกเกาหลีแท้ๆ
ซอสหมักนุ่ม สูตรผสมพริกแม็กซิกัน ตัวนี้จะมีความเผ็ด และหอมกลิ่นพริกแม็กซิกันมาก
ซอสหมักนุ่ม สูตรปิ้งย่างหมูกระทะ ตัวนี้จะหอมกลิ่นของควันและงาคั่วมาก ใครสายหมูกระทะต้องไม่พลาด
และจะยืนยันอีกรอบกว่าหมักแค่ 20 นาทีเท่านั้น ไม่ต้องปรุงเพิ่ม สามารถนำไปประกอบอาหารได้เลย ไม่ว่าจะเป็นปิ้งย่างหรือสเต็กก็เข้ากันสุดๆ แล้วคือมันเริ่ดตรง 20 นาที ก็จะได้รสชาติอย่างที่บอกไปเลย ประหยัดเวลาไปเยอะมาก เอาใจกลุ่มคนที่ไม่มีเวลาสุดๆ
และสำหรับใครที่อยากทานปิ้งย่างเกาหลีแบบที่ร้านเขาทำ ที่เพียวฟู้ดส์เขาก็มีซอสราดแล้วย่างตัวใหม่ วิธีใช้คือง่ายกว่าเดิม เพราะซอสตัวนี้ไม่ต้องหมักทิ้งไว้ เพียงแค่บีบซอสราดลงไปที่เนื้อสัตว์แล้ว ก็สามารถนำไปย่างลงบนเตาได้เลย สะดวกสุดๆ อย่าลืมไปลองกินกันเยอะๆเลยน้า
ในปัจจุบัน “ปิ้งย่างหม่าล่า” ได้รับความนิยมอย่างมาก และก็เริ่มมีร้าน “ปิ้งย่างหม่าล่า” เปิดกันอย่างหลากหลาย แต่วันนี้เราจะมาแจกสูตรเด็ดการทำ “ปิ้งย่างหม่าล่าเสียบไม้” เอาใจสายกินเผ็ดเก่งๆกัน และแน่นอนว่าทุกคนคงจะสงสัยว่า “หม่าล่า” มาจากไหน หม่าล่านะคะเป็นเเครื่องเทศทางตอนใต้ของจีน แล้วเพื่อนๆสงสัยไหมคะว่า หม่าล่าที่เราเรียกกันติดๆปากเนี่ยหมายความว่าอย่างไร ซึ่งคำว่า “หม่าล่า” เนี่ยเป็นการรวมกันของอักษรจีนสองตัวได้แก่ “หม่า” ที่แปลว่า ชา กับ “ล่า” ที่แปลว่า เผ็ด ซึ่งพอมากรวมกันจึงเหมือนเป็นการที่สื่อถึงความรู้สึกหลังจากที่เราได้ทาน “หม่าล่า” เข้าไปนั้นก็จะรู้สึกเผ็ดและชาที่ลิ้น ต่อมาเรามาดูเทคนิคเด็ดในการทำปิ้งย่างหม่าล่าเสียบไม้กันเถอะ จะนำไปทำขายออเดอร์ก็สุดปัง หรือจะทำกินเองก็ง่ายๆ ขั้นตอนไม่ยาก เหมาะสำหรับยุค New Normal มากๆเลยแก
3 เทคนิคเด็ดการทำปิ้งย่างหม่าล่าเสียบไม้ ทำง่ายๆสามารถทำทานเองได้ที่บ้านหรือจะนำไปเป็นแนวทางการเปิดร้านปิ้งย่างหม่าล่าเสียบไม้ก็ได้น้า
1.เตรียมวัตถุดิบ
หั่นวัตถุดิบเป็นชิ้นที่พอดีกับการเสียบไม้เพื่อให้ทานได้ง่ายๆ หรือ
2.นำซอสหม่าล่า ตราเพียวฟู้ดส์ ทาให้ทั่ว เพื่อให้เข้าเนื้อมากยิ่งขึ้น แต่สำคัญมากคือที่ต้องเลือกเป็นซอสหม่าล่า เพียวฟู้ดส์เพราะว่าซอสหม่าล่าของเรามีการปรุงรสออกมาได้เผ็ดร้อน ชา เข้าถึงหม่าล่าแท้ๆ รับประกันความอร่อย
3.ตั้งเตาย่างให้ร้อน เมื่อเตาร้อนก็นำวัตถุดิบที่เตรียมไว้มาย่าง ถ้าอยากให้เผ็ดๆก็นำ ซอสหม่าล่า ตราเพียวฟู้ดส์ มาทาลงบนวัตถุดิบที่เตรียมไว้อีกรอบ บอกเลยว่าเผ็ดจนร้องซี๊ดแค่นี้ก็ได้ ปิ้งย่างหม่าล่า อร่อยๆ กันแล้วว
วัตถุดิบหรืออุปกรณ์ที่จำเป็นในการลงทุนปิ้งย่างหม่าล่า
1.วัตถุดิบ ตัวอย่างเช่น หมู หมูสามชั้น ไก่ ตับไก่ หัวใจไก่ แซลม่อน เห็ดเข็มทอง เห็ดออริจิ กระเจี๊ยบเขียว เป็นต้น วัตถุดิบนี่แล้วแต่เพื่อนๆเลือกเลยนะคะ ว่าชอบอะไร
2.ซอสหม่าล่า การเลือกซอสหม่าล่านี้สำคัญมากเลยเพราะว่าหม่าล่าก็เหมือนหัวใจสำคัญของปิ้งย่างหม่าล่า ถ้ารสชาติหม่าล่าที่เราเลือกมีรสชาติอร่อยเหมือนต้นตำรับแท้ ก็เป็นอีกตัวเลือกนึงที่สามารถมัดใจลูกค้าได้ แต่ขอกระซิบว่าแนะนำเป็นซอสหม่าล่าของเพียวฟู้ดส์ เพราะอะไร เพราะว่า ซอสหม่าล่าของเพียวฟู้ดส์เนี่ย รสชาติเหมือนต้นตำรับ คือ ได้ความรู้สึก เผ็ดร้อน ชาที่ลิ้น จริงๆ รับรองว่าเลือกไปแล้วไม่มีผิดหวัง
3.ไม้เสียบ
4.เตาย่าง ได้ทั้งแบบเตาถ่านและเตาไฟฟ้าเลยน้า
5.ถุงพลาสติก / แก้วพลาสติก ไว้สำหรับใส่หม่าล่า
6.แปรงสำหรับทาซอสหม่าล่า
และนี่ก็คือวัตถุดิบหรืออุปกรณ์ที่จำเป็นในการลงทุนปิ้งย่างหม่าล่า จะเห็นได้ว่าไม่เยอะเลย นี่เลยเป็นเหตุผลว่าทำไม ปิ้งย่างหม่าล่า ถึงเป็นที่นิยม ที่หลายๆคนเลือกที่จะทำนั่นเอง
1 ก.ย. 2566
2 ส.ค. 2566
29 พ.ย. 2565
16 พ.ย. 2566